วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

น้ำพุที่แปลกที่สุดในโลก : Bellagio Fountains
น้ำพุสวยสุดโรแมนติกนี้ ตั้งอยู่ที่ Bellagio เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา
น้ำพุที่แปลกที่สุดในโลก : Swarovski Face Fountain
น้ำพุหน้าตาประหลาดแห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณทางเข้า สำนักงานใหญ่ของ Swarovski เมือง Wattens ประเทศออสเตรีย
น้ำพุที่แปลกที่สุดในโลก : Floating Fountains
10 น้ำพุที่แปลกที่สุดในโลก
น้ำพุลอยได้ นี้เป็นผลงานของ Isamu Noguchi เห็นแล้วราวกับว่า เจ้ากล่องสี่เหลี่ยมนั่นจะทะยานขึ้นฟ้า
น้ำพุที่แปลกที่สุดในโลก : Vortex Fountain
น้ำพุที่แปลกที่สุดในโลก
น้ำพุประหลาด แห่งนี้ มีชื่อว่า Charybdis ออกแบบโดย William Pye ดูภาพนิ่งแล้วเหมือนโหลแก้วธรรมดา หากดูภาพจากวิดีโอจะเห็นความเคลื่อนไหวอันน่าทึ่ง
น้ำพุที่แปลกที่สุดในโลก : Fountain of Rings
น้ำพุวงแหวน นี้ อยู่ในย่านดาวน์ทาวน์ของ เมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นน้ำพุที่ควบคุมการทำงานของแสงด้วยคอมพิวเตอร์ ระบบพ่นน้ำจะทำงานตามเสียงเพลงที่เปล่งจากเจ้าหน้าที่ในหอคอยแสงรอบน้ำพุ
น้ำพุที่แปลกที่สุดในโลก : Crown Fountain
                            
น้ำพุประหลาด สุดกวนนี้ ตั้งอยู่ที่ Millennium Park  สวนสาธารณะแห่ง ชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์ ประเทศอเมริกา
น้ำพุที่แปลกที่สุดในโลก : Banpo Bridge Fountain
สะพานน้ำพุสุดสร้างสรรค์ แห่ง กรุงโซล ถือเป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังแห่งประเทศเกาหลีใต้ >>อ่านต่อ
น้ำพุที่แปลกที่สุดในโลก : El Alamein Fountain
น้ำพุรูปทรงแปลกตานี้ เป็นอนุสรณ์แห่งสงคราม ตั้งอยู่ที่ เมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย
น้ำพุที่แปลกที่สุดในโลก : Dancing Fountain in Dubai
                       
น้ำพุเต้นระบำนี้ เป็นส่วนหนึ่งของห้างดัง Dubai Mall แห่ง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขึ้นชื่อว่าเป็น น้ำพุที่สูงที่สุดในโลก
น้ำพุที่แปลกที่สุดในโลก : Fountain of Wealth
                            
น้ำพุที่แปลกที่สุดในโลก ซึ่งมีชื่อว่า น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง นี้ ตั้งอยู่ที่ Suntec City หนึ่งในห้างฯที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสิงคโปร์ ว่ากันว่า..ต้องเดินรอบน้ำพุให้ครบ 3 รอบ พร้อมสัมผัสละอองน้ำ จะทำให้โชคดีและเกิดเจริญรุ่งเรืองในชีวิต กลางวันอาจดูไม่ค่อยหวือหวา แต่กลางคืนจะมีการแสดงสาดแสงเลเซอร์เคล้าสายน้ำพุ เป็นภาพที่หลายคนตั้งตารอ!

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อันดับที่ 10 Centralia, Pennsylvania 
 
เมืองนี้มีชื่อว่า เซ็นทราเลีย รัฐเพนซิลวาเนีย 

สมัยก่อนเมืองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุตสาหกรรมเหมืองถ่านหิน มีทั้งสถานีรถไฟ โบสถ์ โรงแรมห้าดาว โรงเรียน โรงละคร ธนาคาร ไปรษณีย์ และร้านค้าทั่วไป แต่แล้วในปี 1962 ได้ เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ในเมืองนี้ขึ้น โดยต้นเพลิงมาจากมีคนจุดไฟเผาขยะทิ้งไว้ในบ่อของเหมือง จากนั้นไฟได้ติดถ่านหิน และขยายวงกว้างจนคลุมพื้นที่ใต้ดินของบ้านเรือนทั้งหมด ไฟได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แม้มีการพยายามใช้เงินนับล้านในการดับไฟ แต่ก็ไม่เป็นผล และมันก็ยังไหม้อยู่จนทุกวันนี้ (นานกว่า 40 ปีเข้าไปแล้ว) หลายคนได้รับพิษคาร์บอนมอนอกไซด์ ทั้งในอากาศและการปนเปื้อน รวมถึงการเกิดเหตุดินยุบลึกลงไปเป็นร้อยฟุต จนทางการต้องหาที่อยู่ใหม่แก่ชาวเมือง 

อันดับที่ 9 Dallol 
 
ดูจากภาพแล้วมันก็ดูสวยดีใช่มั้ยยยย -w- เป็นสถานที่ที่อยู่ทางเหนือของเอธิโอเปีย ในระดับสูง 50 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นพื้นที่เมืองผี ส่วนสาเหตุสถานที่แห่งนี้ไม่ควรไปเนื่องจากมันตั้งอยู่ใกล้ชายแดนที่มีความ ขัดแย้ง ในหลายปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวที่พยายามจะเป็นสถานที่แห่งนี้มักถูกกลุ่ม โจรทำอันตรายอยู่บ่อยครั้ง แต่หากคุณอยากจะไปเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้จริงๆ คุณจำเป็นต้องมียานพาหนะติดอาวุธไปด้วย
 
อันดับที่ 8 Hanford Site 
 
แฮนฟอร์ด สถานที่แห่งนี้อยู่ในภาคใต้ของวอชิงตัน อเมริกา อดีตเคยเป็นชุมชนเกษตรกรรมขนาดเล็ก ก่อนที่ในปี 1943 พื้นที่แห่งนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในโครงการแมนฮัตตัน ในการผลิตพลูโตเนียมเพื่อใช้ในโรงงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในสมัยสงคราม โลกครั้งที่ 2 และในช่วงสงครามเย็น และเนื่องด้วยผลิตพลูโตเนียมมากเกินไป ทำให้ของเสียกากกัมตภาพรังสีออกมามีจำนวนมากจนทางรัฐบาลไม่มีแผนจะจัดการสาร ดังกล่าว จนเป็นเหตุทำให้พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยการปนเปื้อนกากกัมตภาพรังสีและปน เปื้อนระบบนิเวศในอากาศ ทำให้มีประชาชนพื้นที่แห่งนี้ได้รับสารก่อมะเร็งและสารพิษหลายราย 

อันดับที่ 7 Dzerzhinsk 
 
เมืองเดอร์ซินสค์ เป็นเมืองที่อยู่ในรัสเซีย ตั้งอยู่บนแม่น้ำ Oka อยู่ไม่ไกลจากทางตะวันออกของกรุงมอสโกประมาณ 400 กิโลเมตร ปัจจุบันเมืองแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางผลิตสารเคมีและได้ถูกระบุว่ามีระดับ มลภาวะที่เลวร้ายที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง น้ำประปาปนเปื้อน สารเคมีตกค้าง และเมืองแห่งนี้ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากภายนอกเข้าชม
 
อันดับที่ 6 Dharavi 
 
Dharavi เป็นพื้นที่สลัมที่มีประชากรเกินกว่าหนึ่งล้านคน แออัดในพื้นที่ 2.2 ตร.กม. สภาพแวดล้อมที่นั้นสกปรกและแออัดอย่างร้ายกาจ อีกทั้งผู้คนในที่แห่งนี้ดูแล้วไม่เป็นมิตร (- -)
 
อันดับที่ 5 Linfen 
 
เมืองเทียนหยิง อยู่ในมณฑลอานฮุย ทางภาคใต้ของสาธารณรัฐ ประชาชนจีน เมืองแห่งนี้มีประชากรกว่า 4.2 ล้านคน และเมืองแห่งถูกอ้างเสมอว่าเป็นเมืองที่สกปรกที่สุดในโลก โดยมลพิษแห่งนี้ปกคลุมอยู่ทั่วเมืองเสมือนหมอกควัน
 
อันดับที่ 4 Room 39 
 
เกาหลีเหนือ แน่นอนมันกลายเป็นสถานที่ที่คุณไม่อยากจะ ไปอีกแห่งของโลก
ส่วนชื่อห้อง 39 นั้นเป็นชื่อสำนักงาน หรือหน่วยงานลับที่คาดว่าที่ทำการอยู่ที่เปียงยาง เกาหลีเหนือ ก่อตั้งในปี 1970 โดยมีวัตถุประสงค์ในการรักษาเงินและเพิ่มเงินในกระเป๋าของท่านผู้นำคิม จอง อิล (เจ้าประจำ555555555)
 
อันดับที่ 3 Mogadishu 
 
เป็นเมืองหลวง และใหญ่ที่สุดในโซมาเลีย ซึ่งเป็นประเทศแอฟริกาตะวันออก
ทุกวันนี้โซมาเลียกลายเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีเสถียรภาพน้อยที่สุดในโลก เพราะประเทศนี้ไม่มีรัฐบาลที่เป็นที่ยอมรับ ประชาชนอดอยากขาดโปรตีน ถนนหลายสายชำรุด อาคารหลายหลังถูกทำลายเนื่องจากโดนระเบิดใจกลางเมือง โจรสลัดระบาดโจมตีเรือที่ผ่านบริเวณนี้ทุกปี กองโจรมุสลิมปกครองด้วยกฎหมายศาลเตี้ย นอกจากนี้ยังมีการระเบิดฆ่าตัวตาย จนมีประกาศว่านักท่องเที่ยวที่จะมาประเทศโซมาเลียให้เว้นระยะห่างจากเมือง หลวง (จะไปทำไมเนี้ย?)
 
อันดับที่ 2 Cite Soleil 
 
เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นตั้งอยู่ในเขตเมืองไฮติ
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2010 เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของไฮติ ส่งผลทำให้ประชาชนกว่า 230,000 ล้านคน 230,000 คนเสียชีวิต และประชากรไฮติกว่าหนึ่งล้านคนไม่มีที่อยู่อาศัย ทำให้สถานที่สลัมแห่งนี้ยิ่งทวีความเลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก เกิดอาชญากรรม แก๊งติดอาวุธเริ่มออกอาละวาดทั้งลักพาตัวปล้นจี้ ผู้คนส่วนใหญ่ในสลัมส่วนมากเป็นเด็กและเยาวชน และมีไม่กี่คนที่รอดจนถึงอายุ 50 ส่วนมากเสียชีวิตเพราะโรคเอดส์ โรคร้าย หรือความรุนแรง นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งค้ามนุษย์ สมาชิกก่อการร้าย นักโทษหนีจากคุก มันเป็นสถานทีน่ากลัวมากขนาดตำรวจไฮติยังไม่กล้าเข้าไปในนั้น(คิดดูละกันเลว ร้ายขนาดตำรวจยังกลัว -0-)
 
และ อันดับ 1 ของเรา 

Orangi Town 
 
เมืองแห่งนี้เป็นที่ตั้งถิ่นที่อยู่อาศัยของผู้อพยพใน ตะวันตกเฉียงเหนือของการาจี ประเทศปากีสถาน
แม้ว่าจะมีโครงการนำร่องในการให้ความรู้และการพัฒนาสร้างท่อส่งน้ำ ถนน และคลีนิก แต่อย่างไรก็ดีหลังจากสงครามอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้อพยพมาจำนวนมาก ความรุนแรงของสองเชื้อชาติ(ปากีสและอัฟกัน) ธุรกิจจำนวนมากปิดตัวลง ถนนถูกทิ้งร้าง ผู้คนต้องอาศัยอยู่แต่ในบ้านความรุนแรง การข่มขืน เหตุระเบิดฆ่าตัวตาย ลักพาตัว และการสังหารกลายเป็นเรื่องปกติของที่นี้ ส่งผลให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่อันตรายที่สุดของโลกในที่สุด!!
 

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

4 เมนู อาหารต้องห้ามที่ไม่ควรทานตอนเช้า

1.ขนมปังปิ้งทา Chocolate Spread
1

  Chocolate Spread โฆษณากันมากกับรสชาติที่หวานของ เฮเซลนัท และ โกโก้ แต่ขอบอกน่ะค่ะ ชอบมากๆ อร่อยมากๆ แต่ก็ต้องตกใจกับปริมาณแคลอรีที่เราทานเข้าไป  Chocolate Spread เพียง 2 ช้อนโต๊ะบนขนมปังปิ้ง 1 แผ่น แคลอรี่ก็พุ่งถึง 200 แคลอรี่แล้ว ทางที่ดีให้เปลี่ยนเป็นแยมผลไม้ดีกว่า เพื่อสุขภาพด้วย

 2.ซีเรียลใส่นม

2
  ซีเรียลใส่นม ที่เป็นอาหารเช้าของเด็กๆหลายๆ คนที่ชื่นชอบเลยน่ะ นักวิจัยเค้าพบว่า เกือบ 100% ของซีเรียลไม่ได้ผลิตจากโฮลเกรนแท้ 100 % ตามที่เขียนใว้ข้างกล่อง เพราะมันมีส่วนผสมแป้งกับน้ำตาลเป็นจำนวนมาก ประโยชน์ที่ร่างกายได้รับและเอามาใช้ได้จริงๆ นั้นมาจากนมซะมากกว่า

3.Health Bars

3
Health Bars ที่อัดแน่นไปด้วยธัญพืช ที่เค้าว่ากันกินแล้วจะได้พลังงานที่สูง ไขมันต่ำ แต่รู้กันไหมว่าอาหารจำพวกนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของความหวานเพราะมีส่วนประกอบ ของน้ำตาลอย่างน้อย 3 ชนิดขึ้นถ้าเราหยิบ Health Bars กินเป็นอาหารเช้าเท่ากับเราเอาน้ำตาลเข้าปากไปตั้ง 30 กรัมเลยน่ะ

4.แฮม.เบคอน.ใส้กรอก
4

   แฮม.เบคอน.ใส้กรอก  ที่กล่าวมามันเป็นสุดยอดของอร่อยเลย  ส่วนมากแล้วคนส่วนมากจะชอบทานเนื้อหมูแปรรูปพวกนี้กันมากโดยเฉพาะเวลาไป ทานบุพเฟ่ต์มักจะนิยมทานกันมาก จึงมาเตือนให้ลดความชอบลงหน่อยจะดีมากเลย เพราะการงดปริมาณบริโภคผลิตภัณฑ์เนื้อหมูแปรรูปทุกๆ 100 กรับต่อวัน สามารถลดความเสี่ยงการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ถึง 20 %  

วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สาเหตุที่วันฮาโลวีน ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปีนั้น เชื่อกันว่า เป็นวันที่ชาวเคลต์ (Celt) ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองเผ่าหนึ่งในไอซ์แลนด์ ถือกันว่าเป็นวันสิ้นสุดปี โดยถือกันว่าเป็นวันที่มิติคนตายและ มนุษย์จะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันและ วิญญาณผู้เสียชีวิตในปีที่ผ่านมาจะเที่ยวหาร่างของคนเพื่อสิงสู่ เพื่อที่จะได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง จึงทำให้คนเป็นอย่างเรา ในวันฮาโลวีนจะต้องหหาทางแก้ไขด้วยการปิดไฟในบ้านทุกดวง ให้บ้านมืดมิด ร่วมกับอากาศที่หนาวซึ่งไม่เป็นที่ปรารถนาของบรรดาผีร้าย อีกทั้งยังมีบางส่วนจะแต่งตัวเป็นผีต่างๆ เพื่อกลบเกลือนวิญญาณว่าไม่ใช่คนเป็นนั้นเอง
Trick or treater
Trick or Treater in Halloween Day
กิจกรรมในวันฮาโลวีน
ในวันฮาโลวีน ที่นิยมจัดกันในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรป ที่มีการจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะกลุ่ม เด็กๆ ที่จะแต่งกายเป็นภูตผี ปีศาจ ในรูปแบบต่างๆ และพากันออกไปร่วมงานฉลองวันฮาโลวีน โดยจะเรียกการเล่นนี้ว่า Trick of Treat (หลอกหรือเลี้ยง) ซึ่งเด็กๆ ที่แต่งตัวเป็นภูติผีปีศาจนั้นๆ จะเดินไปเคาะประตูตามบ้านต่างๆ เพื่อขอขนมที่นิยมจะเป็นลูกกวาด นั้นเองและอีกหนึ่งกิจกรรมในวันฮาโลวีน นอกจากเคาะประตูขอขนมตามบ้านต่าง ๆ แล้ว ยังมีการนำ แอปเปิล กับเหรียญชนิดหกเพ็นซ์ใส่ลงในอ่างน้ำ หากใครสามารถแยกแยะของสองอย่างนี้ ออกจากกันได้ด้วยการใช้ปากคาบเหรียญขึ้นมา และใช้ส้อมจิ้มแอปเปิลให้ติดเพียงครั้งเดียวถือว่าผู้นั้นจะโชคดีตลอดปีใหม่ ที่กำลังมาถึง
ตะเกียงฟักทอง
ประวัติ แจ็ก-โอ’-แลนเทิร์น (Jack-o’-lantern)
ตะเกียงฟักทอง,  โคมไฟฟักทอง หรือ แจ็ก-โอ’-แลนเทิร์น (Jack-o’-lantern) เป็นอุปกรณ์ประดับตกแต่งสถานที่ซึ่งนิยมใช้ใน เทศกาลฮาโลวีน มีลักษณะเป็นผลฟักทองสีส้ม แกะสลักเป็นรูปหน้าคนในกริยาต่างๆ โดยมากมักเป็นกริยาแสดงอาการข่มขวัญ หรือโอดครวญ ทั้งนี้ การใช้ตะเกียงฟักทอง เป็นการระลึกถึง แจ็ก (jack) ชายชาวนาในตำนานที่หาญกล้าต่อกรกับซาตาน


ตำนานของแจ็ก (jack)
เรื่องของแจ็กมีการเล่าในตำนานหลายรูปแบบ เป็นเรื่องเล่าโบราณเรื่องหนึ่ง ซึ่งกล่าวถึงที่มาของชายชาวนาจอมเจ้าเล่ห์ ชื่อว่า “แจ็ก” ผู้ที่ต่อสู้กับซาตาน อย่างไม่เกรงกลัว โดยใช้อุบายหลอกล่อ ซาตานติดกับดัก หนีไปไหนไม่ได้ ซึ่งแจ็กไม่ยอมปล่อยซาตานจนกว่ามันจะรับปากว่า เมื่อเขาตายแล้วจะไม่นำวิญญาณเขาลงนรกเด็ดขาด ซาตานไม่มีทางเลือกจึงต้องรับปาก เมื่อแจ็กเสียชีวิตลงด้วยความเป็นคนชั่วเขาจึงไม่ได้ไปสวรรค์ วิญญาณของเขาล่องลอยไปยังปากทางนรก และพบกับซาตานคู่อริเก่าอีกครั้ง ตามสัญญาที่ให้ไว้ ซาตานปล่อยวิญญาณของแจ็กไป พร้อมแสงไฟส่องนำทางให้กับวิญญาณแจ็กที่ต้องเร่ร่อน ไม่มีที่ไปอย่างนั้นตลอดกาล ทุกคืน ฮาโลวีน วิญญาณของแจ็กจะระหกระเหินไปในความมืด พร้อมแสงไฟส่องที่ครอบด้วยหัวผักกาด ต่อมาเมื่อตำนานนี้เข้ามาในอเมริกา ก็มีการเปลี่ยนมาใช้ผลฟักทองแทนจนทุกวันนี้

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

   โลกในการทำงานกับชีวิตวัยเรียนนั้นต่างกันอย่างมาก ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสนุกและประสบการณ์ ต่าง ๆ ซึ่งน้องๆ จะได้รู้จักกับคนใหม่ ๆ และเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอดเพื่อก้าวผ่านปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต แต่หลังจากจบการศึกษาไปแล้วนั้น น้อง ๆ จำต้องตระหนักว่ายังมีสังคมที่กว้างกว่า และเต็มไปด้วยสิ่งแปลกใหม่ รวมถึงความไม่มั่นคงในโลกแห่งความจริงรออยู่ และนี่ก็คือแนวทางสำหรับบัณฑิตที่เพิ่งจะก้าวออกจากรั้วการศึกษามารับมือกับ โลกใบใหม่ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเว็บไซต์อีลิทเดลี่ ได้ให้คำแนะนำถึง 10 สิ่งที่บัณฑิตจบใหม่พึงระลึกไว้ในตอนที่จบจากมหาวิทยาลัย ดังนี้
1. ชีวิตไม่มีหลักสูตรตายตัว
           เราไม่จำเป็นต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตจากตำราเล่มไหนเพราะไม่มีหลักสูตรใด ๆ ที่จะนำทางชีวิตเราได้ ในทางกลับกัน ประสบการณ์ในชีวิตต่างหากที่จะกลายเป็นบทเรียนที่ทรงคุณค่าที่สุด ที่เราจะต้องเรียนรู้ สิ่งที่สำคัญคือ หากเราผิดพลาด เราต้องให้ความผิดพลาดเหล่านั้นเป็นเหมือนครู  และอย่าผิดพลาดซ้ำอีก
2. ครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งปวง
            ในช่วงเวลาที่ยากลำบากจนคิดที่จะลาออกจากงานนั้น จำไว้ว่าเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ในตอนที่เจอกับทางต้น ครอบครัวจะเป็นผู้คอยสนับสนุนอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นจงรักษาสัมพันธภาพในครอบครัวไว้ให้ดี รู้ไว้เถอะนะว่าคุณสามารถวางใจพวกเขาได้เสมอ
3. เวลาคือสินค้าที่มีค่ามากที่สุด
           เวลาคือสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด แต่เรากลับใช้มันอย่างสูญเปล่าที่สุดเช่นกัน อย่าลืมว่าในขณะที่เรากำลังหลับอยู่ อาจจะมีใครบางคนที่ทำเงินได้จากโอกาสที่เราปล่อยทิ้งไปเฉย ๆ แต่ทั้งนี้ก็ต้องไม่ลืมเช่นกันว่า ควรจะมีเวลาพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายอย่างเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายพร้อมที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จต่อไป
4. ไม่มีคำว่าผ่านไป หรือล้มเหลวในชีวิต
           ในโลกธุรกิจนั้น เราไม่มีทางที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าได้โดยทิ้งงานที่ได้รับมอบหมายไว้เบื้อง หลัง เหมือนเช่นเมื่อไหร่ก็ตามที่ลาออกจากงาน ก็จะไม่มีโอกาสที่ 2 กลับมาเริ่มใหม่ได้อีก
           นอกจากนี้ ในโลกของการทำงาน การจะทำงานให้เสร็จทันตามกำหนดอาจจะเป็นสิ่งที่ช้าจนเกินไป เพราะฉะนั้นต้องทำให้แน่ใจว่า งานจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมก่อนที่เจ้านายของคุณจะทวงงานชิ้นนั้นจากคุณ
5. ก้าวออกจากพื้นที่ส่วนตัวแสนสบาย สู่ชีวิตที่สับสนวุ่นวายในเมืองใหญ่
           โอกาสในการทำงานส่วนมากมักจะอยู่ในเมืองใหญ่ ซึ่งคงไม่มีอะไรที่จะน่ากลัวไปมากกว่าการต้องจากบ้านเข้ามาอาศัยอยู่ในเมือง ใหญ่ตามลำพังอีกแล้ว แต่ในบางครั้งการกลับไปอยู่ในอ้อมอกของพ่อแม่อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเสมอ ไป เพราะฉะนั้นเราควรจะก้าวออกมากจากพื้นที่แสนสบาย เพื่อมาเผชิญกับโอกาสที่ดีกว่าในเมืองซะครั้ง
6. อย่าเดินตามทางที่คนอื่นเลือกให้ แต่ให้พยายามสร้างเส้นทางของตัวเอง
           ไม่มีข้อยืนยันใด ๆ ที่บอกว่าเส้นทางในสังคมนั้นจะสร้างมาเพื่อเรา ทั้งที่การเดินบนเส้นทางเหล่านั้นเป็นสิ่งที่น่าเบื่อเหลือเกิน เพราะฉะนั้นจงเป็นตัวของตัวเองและใช้ชีวิตอย่างที่เราต้องการเถอะ
7. ไปให้สูงที่สุดเท่าที่ตัวเองต้องการ แต่อย่าสร้างปัญหากับใครทั้งนั้น
           ไม่ว่าใครต่างก็มีความชั่วร้ายอย่ในตัว แต่พวกเขาจะไม่เปิดเผยให้ใครได้รู้หรอก เพราะฉะนั้น เก็บตัวตนที่ชั่วร้ายของคุณไว้ และอย่าให้ปัญหาของคุณมาส่งผลกระทบต่อคนอื่นที่อยู่รอบตัว
8. เรียนรู้จากเจ้านาย แต่อย่ากลายเป็นแบบเขา
           จงเรียนรู้จากเจ้านายเหมือนอย่างที่เรียนรู้จากอาจารย์ แต่อย่ากลายเป็นแบบเขา ในทางกลับกัน ลองแสวงหาความรู้จากแหล่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรารักไปพร้อม ๆ กัน นั่นจะทำให้เรารู้สึกดีมากกว่าหากได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่รักจะทำ
9. เพื่อนร่วมงานไม่ใช่เพื่อนของคุณ
           เราจะต้องลืมความผูกพันทางใจไปให้หมด เพราะอาจไม่มีใครที่จะสนใจถึงมิตรภาพที่มอบให้ก็ได้ มองว่าความสัมพันธ์นั้นมีค่า ควรขีดเส้นกั้นตัวเองและดูให้แน่ใจว่าความสัมพันธ์อันมีค่าสำหรับคนคู่ควร ได้รับเท่านั้น
10. ทำงานให้เสร็จแม้ว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่ก็ตาม
           ในโลกของความเป็นจริง เป็นเรื่องยากที่จะให้อภัยหากเราทำงานที่เจ้านายสั่งไม่เสร็จ ดังนั้นจงจัดการการทำงานให้ดี หรือหาคนมาช่วยก็ได้หากจำเป็นจริง ๆ

วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556

แครอทต้านโรค

แครอท เกิดในแถบเอเชียตะวันออก และเอเชียกลาง ออกดอกราวเดือนพฤษภาคม ถึงตุลาคม ดอกแตกเป็นชั้นคล้ายร่ม ชั้นนอกสีชมพู ตรงกลางสีม่วงแดง แครอทสมัยโบราณมีเนื้อแข็ง เสี้ยนเยอะเหมือนไม้ สีของหัวแครอทมีตั้งแต่สีเหลืองไปจนถึงสีม่วง แต่แครอทสีส้มที่รับประทานกันทั่วไป เป็นแครอทที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์เมื่อศตวรรษที่ 18 นี้เอง ในทางยาพบว่าแครอทเป็นสมุนไพรพื้นบ้านของชาวอเมริกัน ใช้เป็นยาครอบจักรวาล รักษาได้หลายโรค เช่น แก้โรคประสาท โรคผิวหนัง และหืดหอบ


                                                                          


ในปี พ.ศ. 2510 สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ได้พบว่าวิตามินเอที่ได้จากสัตว์ สามารถระงับมะเร็งในทางเดินหายใจ ในหนูทดลองได้ แต่ยังไม่มีใครสนใจว่าวิตามินเอที่ได้จากพืช หรือสัตว์จะให้ผลดีกว่ากัน ซึ่งข้อมูลขณะนั้นได้บ่งชี้อย่างชัดเจนว่า คนได้รับวิตามินเอจากผักสีเขียว และพืชสีส้มเป็นหลัก วิตามินเอที่ได้รับจากพืชคือ สารเบต้าแคโรทีน ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ เมื่อเข้าไปอยู่ในร่างกายมนุษย์
ปี พ.ศ. 2524 ริชาร์ด ปีโต และคณะ ได้เขียนบทความลงในนิตยสาร Nature ว่า “จริงๆ แล้ว วิตามินเอไม่ได้ส่งผลให้เกิดการยับยั้งมะเร็ง แต่เป็นสารเบต้าแคโรทีน” จากการทดลองของ ดร. ริชาร์ด เชเคลล์ นักระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยเท็กซัส ก็สนับสนุนความน่าเชื่อถือของข้อมูลนี้ มีการทดลองอีกมากมายเกิดขึ้น
แต่ข้อสรุปรวมจากการศึกษาทั้งหมดก็คือ “อาหารที่มีเบต้า แคโรทีน สามารถลดอุบัติการโรคมะเร็งในปอดได้ แม้แต่ในผู้ที่สูบบุหรี่หลายปีแล้วก็ตาม” นอกจากนี้ยังพบว่า คนที่ทานพืชผักที่มีแคโรทีนน้อยที่สุด จะเสี่ยงต่อมะเร็งในปอด เป็นเจ็ดเท่าของคนที่ทานมากที่สุดในกลุ่ม เบต้าแคโรทีนสามารถป้องกัน และยับยั้งมะเร็งในระยะต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากให้กินเบต้าแคโรทีนขนาดสูง พร้อมกับฉายรังสี
ท่านที่เคยเขี่ยแครอทชิ้นน้อยทิ้งจากจานสเต็ค คงทราบแล้วว่า แครอทมีคุณประโยชน์มหาศาล นี่ยังไม่รวมถึงประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยให้ท่านดูสดชื่น บำรุงผิวพรรณ และช่วยในการขับถ่าย พืชผักทุกชนิดมีคุณสมบัติดีต่อร่างกายเหมือนกันหมด หากท่านอยากมีสุขภาพดี ก็ไม่ควรเขี่ยผักเหล่านี้ทิ้งแม้สักชิ้นเดียว
                                  เมนูจากแครอท


                        ตาใส ผิวสวย ด้วยซุปแครอท

                                         ซุปแครอท    


                                         
                                                                         เบคอนโรล


                                          
                                                             น้ำแครอท  

         
                                       
                                                                        เค้กแครอท


                                      แครอทลูกชิ้น (1)
                                      ลูกชิ้นแครอท