วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

                                
                              


“ซองเครื่องปรุง” ละลายน้ำได้ บริโภคได้ ผลิตจากฟิล์มเจลาตินหนังปลา และยังสะดวกรวดเร็วเหมาะแก่ชีวิตเร่งรีบ ทำตลาดได้กับผู้บริโภคทุกศาสนาและหวังต่อยอดเชิงพาณิชย์ในอนาคต 
       
       ศ. ดร.สุทธวัฒน์ เบญจกุล เมธีวิจัยอาวุโส สกว. จากภาควิชาเทคโนโลยีอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เผยถึงผลงานวิจัยระดับปริญญาเอกของ นายภควรรษ ทองนวลจันทร์ นักศึกษาในภาควิชาจากสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร ซึ่งได้พัฒนาถุงชนิดละลายน้ำสำหรับบรรจุน้ำมันและผงปรุงรสที่สามารถบริโภคได้
       
       งานวิจัยดังกล่าวยังมี ผศ. ดร.ธรรมนูญ โปรดปราน เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม และได้การสนับสนุนจากฝ่ายวิชาการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ภายใต้โครงการเมธีวิจัยอาวุโส สกว.
       
       ศ. ดร.สุทธวัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำจำนวนมาก ในขั้นตอนกระบวนการแปรรูปสัตว์น้ำโดยเฉพาะปลาและหมึก ก่อให้เกิดวัสดุเศษเหลือในปริมาณมาก เช่น หนัง ซึ่งโดยทั่วไปมักนำมาใช้ในการผลิตอาหารสัตว์หรือปุ๋ยที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจต่ำ จึงเกิดแนวคิดนำหนังปลามาเป็นวัสดุตั้งต้นสำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์บริโภคได้และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแนวทางในการใช้ประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับวัสดุเศษเหลือดังกล่าว ตลอดจนได้บรรจุภัณฑ์ชนิดใหม่ที่สามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค
       
       ฟิล์มเจลาตินจากหนังปลาที่คณะวิจัยพัฒนาขึ้นนั้นเป็นฟิล์มที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพและสามารถบริโภคได้ โดยสามารถใช้เป็นทางเลือกใหม่ของวัสดุสำหรับงานบรรจุภัณฑ์ ฟิล์มดังกล่าวมีสมบัติเด่น คือสามารถป้องกันการซึมผ่านของก๊าซและสารระเหยต่างๆ ป้องกันการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ภายนอก หรือทำหน้าที่เก็บกักสารเติมแต่งอาหาร เช่น วัตถุกันเสีย สารช่วยรักษากลิ่นรส ตลอดจนทำหน้าที่ป้องกันความเสียหายให้อาหารระหว่างการลำเลียงและการขนส่ง เนื่องจากแผ่นฟิล์มจากเจลาตินมีสมบัติการละลายน้ำได้ดี โดยเฉพาะน้ำร้อน
       
       ทางคณะผู้วิจัยได้นำฟิล์มเจลาตินจากหนังปลาไปพัฒนาต่อยอดเป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุผงปรุงรสและน้ำมัน ซึ่งสามารถใช้กับอาหารกึ่งสำเร็จรูป เช่น บะหมี่ หรือเส้นหมี่พร้อมปรุง เพื่อลดการใช้บรรจุภัณฑ์จากพลาสติก หรือพอลิเมอร์สังเคราะห์ ทำให้ลดปัญหาการทิ้งหรือกำจัดบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานในการสลายตัวตามธรรมชาติ จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวยังเป็นแหล่งของโปรตีน ผู้บริโภคเพียงเติมน้ำร้อนลงในภาชนะที่บรรจุอาหารและบรรจุภัณฑ์ซึ่งบรรจุสารปรุงแต่งต่าง ๆ โดยไม่ต้องมีการฉีกหรือตัดบรรจุภัณฑ์เพื่อนำเครื่องปรุงออกมา
       
       นอกจากนี้การวิจัยยังได้พัฒนาปรับปรุงสมบัติของฟิล์มเจลาตินที่มีข้อด้อย คือ มีสมบัติการป้องกันการซึมผ่านไอน้ำต่ำ ด้วยการพัฒนาฟิล์มเจลาตินชนิดใหม่ให้มีคุณสมบัติลดการซึมผ่านไอน้ำ และสามารถปิดผนึกเป็นถุงหรือบรรจุภัณฑ์ได้ด้วยความร้อน โดยมีความแข็งแรงมากพอสำหรับบรรจุของเหลว เช่น น้ำมัน และของแห้ง เช่น ผงปรุงรสต่างๆ
       
       “ถุงบรรจุเครื่องปรุงจากเจลาตินจากหนังปลาสามารถใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ฮาลาล และสามารถใช้ได้กับผู้บริโภคทุกศาสนาและเชื้อชาติ ละลายได้ง่ายในน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 45 องศาเซลเซียส โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ซึ่งน่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ใหม่ สำหรับผลิตภัณฑ์จำพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่จำเป็นต้องเติมน้ำร้อนหรือปรุงก่อนบริโภค โดยผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องฉีกและทิ้งบรรจุภัณฑ์ของเครื่องปรุงต่างๆ ทำให้เกิดความสะดวกกับผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่ต้องรีบเร่งและต้องการความสะดวกสบาย ทั้งนี้หวังว่าในอนาคตจะมีการต่อยอดนำผลงานวิจัยนี้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์” ศ. ดร.สุทธวัฒน์กล่าว


        



วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555


วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555



 "อ่าวฮาลอง" (Halong Bay)
halong_bay
      อ่าวฮาลอง (Vịnh Hạ Long) หรือ ฮาลอง เบย์ (Halong Bay) เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ยทางตอนเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ใกล้ชายแดนติดต่อกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ชื่อในภาษาเวียดนาม หมายถึง "อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง"
      อ่าวฮาลองมีเกาะหินปูนจำนวน 1,969 เกาะ โผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่อยู่ภายใน เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าว 2 เกาะ คือ เกาะกัดบา และเกาะ Tuan Chau ทั้งสองเกาะนี้มีคนตั้งถิ่นฐานอยู่อย่างถาวร มีโรงแรมและชายหาดจำนวนมากคอยให้บริการนักท่องเที่ยว บางเกาะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง และบางเกาะยังเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์หลายชนิด เช่น ไก่ป่า ละมั่ง ลิง และกิ้งก่าหลายชนิด เกาะเหล่านี้มักจะได้รับการตั้งชื่อจากรูปร่างลักษณะที่แปลกตา เช่น เกาะช้าง (Voi Islet) เกาะไก่ชน (Ga Choi Islet) เกาะหลังคา (Mai Nha Islet) เป็นต้น
      อ่าวฮาลองได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2537

วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555


โรคมือเท้าปาก
โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเอนเทอโร ซึ่งมีหลายชนิด พบได้บ่อยทั่วโลก ในกลุ่มเด็กทารก และเด็กเล็ก อายุต่ำกว่า 5 ปี การระบาดมักเกิดขึ้นในศูนย์เด็กเล็ก และโรงเรียนอนุบาล โดยทั่วไปมีอาการไม่รุนแรง ผู้ป่วยมีไข้ต่ำ ๆ เกิดตุ่มพอง และแผลเล็กๆ ในปาก คอ มีตุ่มที่ มือ เท้า และบริเวณก้น แต่เชื้อไวรัสบางสายพันธุ์ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น อาการทางระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท สมองอักเสบหรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โรคนี้ติดต่อได้จากการสัมผัสโดยตรงกับน้ำมูก น้ำลาย อุจจาระ หรือตุ่มพองและแผลของผู้ป่วย รวมทั้งการติดต่อทางน้ำหรืออาหาร
นพ.นพพร ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ทางช่อง 3 ว่า ขณะนี้ในประเทศไทยเกิดโรคมือเท้าปากที่เกิดจากเชื้อในลำไส้ชนิดไม่รุนแรง และยืนยันว่ายังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยจากข้อมูลพบว่ามีอัตราป่วยของโรคเพิ่มขึ้นในภาคเหนือตอนบน เช่น จังหวัดเชียงราย พะเยา เชียงใหม่ ภาคอีสานใต้ เช่นจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ ตะวันออก เช่น จังหวัดชลบุรี ระยอง ตราด ภาคใต้ที่จังหวัดยะลา สตูล สงขลา และพื้นที่ที่มีฝนตกหนัก เพราะเชื้อจะเพาะได้เร็ว ดังนั้นหากพบเด็กที่มีอาการไข้สูงเกิน 3 วัน ซึม อาเจียนต้องรีบนำไปพบแพทย์เพราะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมือเท้าปาก หากปล่อยไว้ในวันรุ่งขึ้นจะทำให้เด็กเกิดอาการชัก และหัวใจหยุดทำงานได้ จึงควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด อย่าประมาท เนื่องจากเชื้อไวรัสนั้นไม่มียารักษา แต่ต้องใช้ภูมิร่างกายตนเองต่อสู้กับเชื้อโรค ดังนั้น พยายามล้างมือบ่อยๆ ดื่มน้ำสะอาด ออกกำลังกาย กินอาหารให้ครบ 5 หมู่
ส่วนโรงเรียนที่มีการปิดเรียนนั้น ขออย่าให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะการที่โรงเรียนปิดถือว่าน่าชมเชยเพราะถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการตัดตอนโรคไม่ให้แพร่เชื้อ อย่างไรก็ตามย้ำว่ามาตรการการปิดเรียน กรณีพบเชื้อคือหากโรงเรียนพบเด็กที่ป่วยโรคมือเท้าปาก 5 ห้องเรียนต่อ 1 โรงเรียนให้ปิดเรียนได้ทันที หากน้อยกว่านั้นก็เลือกปิดเฉพาะห้องเรียนนั้นๆ ไป เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค
"เชื้อโรคมือเท้าปากนั้นจะอยู่ในลำไส้คน บางคนอยู่ได้ 6 เดือนก็มี เมื่อถ่ายแล้วเด็กไปเข้าห้องน้ำสาธารณะแล้วไม่ล้างมือ ก็ไปเอาเชื้อมา ก็มีอาการและต่อๆ กันไป ผู้ใหญ่รับเชื้อไปได้เหมือนกัน แต่ไม่มีอาการ โดยเป็นพาหะได้ และที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าจะไม่พบโรคนี้ แต่พบหนักๆ ตอนโรงเรียนเปิด ความจริงแล้วก็ไม่น่ากลัวเพราะไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น และไม่อยากให้ประมาท และน่าสงสารเด็กและผู้ปกครองอย่างมาก เพราะเมื่อเด็กเป็นโรคจะกินอาหารไม่ได้ถึง 7 วันเลย ดังนั้นพ่อแม่ต้องสังเกตอาการของลูก อาจจะซื้อปรอทวัดอุณหภูมิไว้ที่บ้าน เมื่อลูกมีไข้จะได้วัดได้ ถ้าอุณหภูมิถึง 39 ต้องรีบส่งโรงพยาบาลแล้ว"นพ.นพพรกล่าว
สำหรับความแตกต่างของโรคมือเท้าปากกับโรคหวัดนั้น คือผู้เป็นโรคหวัดจะไม่มีผื่นที่มือ ปาก และเท้า โดยเฉพาะที่เท้าจะไม่เกิด และแม้เด็กบางรายไม่แสดงอาการผื่นที่เกิดขึ้นจำนวนมาก ขอให้สังเกตลักษณะอาการ หากพบว่ามีไข้สูง ซึม ถือว่าเสี่ยงอันตรายต่อการเกิดโรค ไม่เฉพาะโรคมือเท้าปากเท่านั้น แต่อาจรวมไปถึงโรคไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนก จึงต้องรีบพบแพทย์
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาตรการ ดังนี้
1. เร่งรัดมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค
2. กำชับแพทย์ในสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน ในพื้นที่ให้ระมัดระวัง
3. ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงของโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยที่อาจไม่ได้มาด้วยอาการตุ่มที่ปาก หรือฝ่ามือ ฝ่าเท้า
4. ทำการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เรื่องโรคมือ เท้า ปาก แก่ประชาชน เน้นการรักษาสุขอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ หากมีผู้ป่วยสงสัยมือ เท้า ปากที่มีไข้สูง ซึม ชัก หายใจ หอบเหนื่อย ให้รีบพาไปพบแพทย์
5. ให้จังหวัดที่พบผู้ป่วยมากกว่า 10 รายต่อวัน เปิดศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด (War room) โดยเรียนเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
6. ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปลัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ในการร่วมเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการระบาดของโรคมือ เท้า ปาก ในศูนย์เด็กเล็ก สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานศึกษา และชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเน้นสุขอนามัย และการทำความสะอาดในโรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนประถมศึกษาทั่วประเทศ รวมทั้งคำแนะนำผู้เดินทางไป-กลับจากประเทศที่มีการระบาดของโรคนี้ ซึ่งยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ แต่ควรปฏิบัติตามสุขอนามัยที่ดี ล้างมือบ่อย ๆ

วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

โอ้... แม่เจ้า..!! รวมมิตร “ของปลอม” จาก... “จีน” เห็นแล้ว... อึ้ง ทึ่ง เซ็ง..!!!


นมปลอม








ข้างในมีตัวอะไรไม่รู้ด้วย



ผ้าอนามัยปลอม




ทำจากสำลีใช้แล้ว - -* 

สาหร่ายหลอม







ทำจากถุงดำบ้านเรานี่เอง






ทำจากตะเกียบไม้ 


ไก่ปลอม







ทำมาจากเนื้อหนู 

ยางมัดผม 







ทำมาจากถุงยางใช้แล้ว

ยาปลอม





อันนี้ไปจับได้ที่เขตการค้าเสรีดูไบ ตรวจไปตรวจมาความก็แตกว่า

ถูกผลิตขึ้นที่จีน ที่มาของยาเหล่านี้มีโครงข่ายอุปทานที่จัดว่าซับซ้อนมาก

โดยยาปลอมที่ผลิตในจีนได้ส่งผ่านมาทางฮ่องกงสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์

อังกฤษ บาร์ฮามาส สุดท้ายก็ไปถึงยังร้านยาออนไลน์ RxNorth

ซึ่งเป็นร้านขายยาออนไลน์ในแคนาดาที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก

ปีที่แล้ว ที่มีกรณียาน้ำแก้ไอจากจีนที่มี ไดเอธีลีน ไกลโคล (diethyleneglycol)

ซึ่งจัดเป็นยาอันตรายที่มีผลถึงชีวิตผสมอยู่ทำให้มีชาวปานามาเสียชีวิตไป ถึง 100 กว่าคน


ซอสถั่วเหลืองปลอม
ทำมาจากเส้นผมและขนของคน 






ซอสปลอมที่ว่านี้ทำมาจากเส้นผม นอกจากเส้นผมแล้ว จะเป็นขนรักแร้

ขนหน้าแข้ง ขนอะไรก็ตามในร่างกายสามารถนำมาทำได้ทั้งนั้น
เพราะในเส้นขนมีสารประกอบของโปรตีนรวมอยู่เยอะ ที่สำคัญถั่วเหลืองแพงด้วย

(ประมาณว่าเป็นวัสดุทดแทนแต่คุณค่าทางอาหารใกล้เคียงกัน -_-)


ผู้สื่อข่าวจาก CCTV ของจีนได้แฝงตัวเข้าไปทำข่าวในโรงงานผลิตซอส

ชื่อ Hongshuai ตั้งอยู่ที่มณฑลหูเป่ย วิธีการผลิตของเค้า คือ ไปเก็บเส้นผมมาจากที่ต่างๆ เช่น ร้านตัดผม ถังขยะโรงพยาบาล

โดยเฉพาะในโรงพยาบาลถือเป็นแหล่งใหญ่ในการหาเส้นผมเลย
เพราะมีคนไข้มากมายที่มารักษาแล้วต้องโกนหัว ก่อนรักษา

เช่น คนเจ็บที่หัวแบะมาก็ต้องโกนหัวก่อนรักษา
เมื่อเก็บมาได้แล้วก็คัดแยกขยะอื่นๆ ที่ปนมาทิ้งไป เช่น ผ้าพันแผล พลาสเตอร์

สำลี เข็มฉีดยา ผ้าอนามัย และขยะอื่นๆ อีกมากมาย
พอคัดแยกเสร็จก็เอาเส้นผมมาทำความสะอาดตัดเป็นชิ้นเล็กๆ

แล้วเอามาทำเป็นน้ำเชื่อมกรดอะมิโนเพื่อไปหมักทำซอสต่อไป 


ไข่ปลอม 



ไข่ปลอมดังกล่าวหนังสือพิมพ์จีนระบุว่า มีลักษณะเหมือนไข่จริงมาก

แต่ไม่มีโปรตีน มีสารเคมีหลายชนิดแทน เช่น สารส้ม โซเดียม

อัลจิเนตเจลาติน แคลเซียม คลอไรด์ และโซเดียม เบนโซเอต

ส่วนไข่แดงถูกย้อมสีด้วยเกลือ หรือเอสเตอร์ของกรด "ทาร์ทาริค เอซิด"

ซึ่งใช้ทำเครื่องดื่มที่มีฟอง และขนมฟู รวมทั้งใช้ในอุตสาหกรรมถ่ายรูปและฟอกหนัง

ไข่ขาวใช้เจลาตินที่ทำเจลลี่และแป้ง รวมทั้งอะลูมิเนียม

ส่วนเปลือกไข่ปลอมทำจากสารแคลเซียม คาร์บอเนต และพาราฟินแวกซ์ผสมกับน้ำ


ข่าวระบุว่า ไข่ไก่ปลอมมีวิธีการทำแสนง่าย

และใช้ทุนแค่ 1-5 เซนของสกุลเงินเหรียญฮ่องกง (ไม่ถึง 20 สตางค์)

เทียบกับราคาไข่จริงอยู่ที่ฟองละ 25-30 เซนของเหรียญฮ่องกง (1-1.2 บาท)

อีกทั้งวิธีการทำไข่ปลอมมีเผยแพร่ทั่วไปบนเว็บไซต์หลายแห่งในจีน



ขณะที่บริษัทด้านเทคโนโลยีบางแห่งถึงกับเคยเปิดคอร์ส สอนวิธีทำไข่ปลอมมาแล้ว

คิดค่าสอนคอร์สละ 150 - 800 เหรียญฮ่องกง (600-3,200 บาท)

รวมทั้งทำวีซีดีวิธีการทำออกขายอีกทางหนึ่งด้วย



แล้วยังมีอะไร... ปลอมอีกละ...

ดูกันเอาเองละกัน... เฮ้อ...
















วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Je me lév e à six heures du matin, Je me lave. Puis je prends mon petit je jeuner. Ensuite, Je vais en bus  à lycée à sept heures. Se joue une postable. J'ai la class à huit heures et demi. À midi, je déjeune à la cantine avec amies. Aprés, je par chez moi. Le soir, ma famille dîners. Je regarde la télévision. Je me couche. Voila, c'est ma jonrnéel.